|
การไหลเวียนของน้ำในมหาสมุทร
น้ำเป็นของไหลเช่นเดียวกับอากาศ การไหลเวียนของกระแสน้ำในมหาสมุทรจึงมีลักษณะคล้ายการไหลเวียนของกระแสลมในบรรยากาศ หากแต่การไหลเวียนของกระแสน้ำมีอุปสรรคขวางกั้น เนื่องจากหนึ่งในสามของพื้นผิวโลกเป็นแผ่นดิน ดังนั้นการไหลเวียนของน้ำในมหาสมุทรจึงไม่ปรากฏรูปแบบที่ชัดเจนเหมือนดังกระแสลม
ข้อแตกต่างอีกประการหนึ่ง
น้ำทะเลในมหาสมุทรมีความเค็มไม่เท่ากัน น้ำทะเลที่เค็มกว่ามีความหนาแน่นสูงจะเคลื่อนไปแทนที่น้ำทะเลที่มีความหนาแน่นต่ำ เราจึงแบ่งการไหลเวียนของน้ำในมหาสมุทรเป็น 2 ประเภทคือ กระแสน้ำบริเวณพื้นผิว (Surface currents) และกระแสน้ำลึก (Deep currents) |
|
การไหลเวียนของกระแสน้ำบริเวณพื้นผิวมหาสมุทร
กระแสน้ำพื้นผิวมหาสมุทรเกิดขึ้นเนื่องจากความฝืดของอากาศกับผิวน้ำใน
มหาสมุทร
กระแสลมเคลื่อนที่ด้วยความแตกต่างของพลังงานจากดวงอาทิตย์ซึ่งอากาศสะสมไว้
พลังงานจากอากาศถ่ายทอดลงสู่ผิวน้ำอีกทีหนึ่ง
กระแสลมพัดพาให้กระแสน้ำเคลื่อนที่ไปในทางเดียวกัน |
|
|
ภาพที่ 1 อิทธิพลของกระแสลมต่อกระแสน้ำในมหาสมุทร |
|
|
ภาพที่ 1 แสดงให้เห็นว่า
ลมสินค้าตะวันออกบริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตร
มีอิทธิพลพัดให้น้ำในมหาสมุทรเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตก
และลมตะวันตกในบริเวณใกล้ขั้วโลก
มีอิทธิพลพัดให้น้ำในมหาสมุทรเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออก การไหลของน้ำในมหาสมุทรเคลื่อนที่เป็นรูปวงเวียน ในทิศทางตามเข็มนาฬิกาในซีกโลกเหนือ และในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาในซีกโลกใต้
ทรงกลมของโลกทำให้น้ำในมหาสมุทรมีอุณหภูมิแตกต่างกัน
พลังงานจากดวงอาทิตย์ตกกระทบบริเวณศูนย์สูตรมากกว่าขั้วโลก
น้ำทะเลบริเวณเส้นศูนย์สูตรมีอุณหภูมิสูงจึงไหลไปทางขั้วโลก
ในขณะที่น้ำทะเลบริเวณขั้วโลกมีอุณหภูมิต่ำกว่าไหลเข้ามาแทนที่ (ภาพที่ 2)
เนื่องจากน้ำมีคุณสมบัติในการเก็บความร้อนได้ดีกว่าพื้นดินกล่าว คือ
ใช้เวลาในการสะสมความร้อน และเย็นตัวลงนานกว่าพื้นดิน
ดังนั้นกระแสน้ำพบพื้นผิวมหาสมุทรจึงพัดพาพลังงานความร้อนไปด้วยเป็นระยะทาง
ไกล ทำให้เกิดผลกระทบต่อภูมิอากาศ
และระบบนิเวศบนพื้นที่ชายฝั่งเป็นอย่างยิ่ง
อย่างก็ตาม อิทธิพลของกระแสลมส่งผลกระทบกระแสน้ำในมหาสมุทร
เพียงความลึก 1 กิโลเมตรเท่านั้น นั่นหมายถึง การไหลเวียนของกระแสน้ำผิวพื้น มีอิทธิพลต่อน้ำในมหาสมุทรประมาณร้อยละ 10 |
|
|
ภาพที่ 2 กระแสน้ำพื้นผิวมหาสมุทร |
|
|
การไหลเวียนของกระแสน้ำลึกในมหาสมุทร
น้ำทะเลมีรสเค็ม เนื่องจากมีเกลือซึ่งประกอบด้วยแร่ธาตุต่างๆ
ปะปนอยู่ในรูปของสารละลาย ในน้ำทะเล 1 ลิตร (1,000 กรัม) มีเกลืออยู่ 35
กรัม ในบริเวณที่น้ำทะเลอุณหภูมิสูง เช่น
ใจกลางมหาสมุทรบริเวณเส้นศูนย์สูตร แสงแดดมีความเข้มสูง
ทำให้น้ำในมหาสมุทรระเหยเป็นไอน้ำ
ทิ้งแร่ธาตุที่ตกค้างไว้ในจนน้ำทะเลมีความเข้มของเกลือมาก
แต่ในที่หนาวเย็นที่บริเวณขั้วโลก แสงแดดตกกระทำพื้นผิวโลกเป็นมุมเฉียง พลังงานที่ตกกระทบน้อย
ปริมาณการระเหยของน้ำทะเลย่อมน้อยตามไปด้วย ความเข้มของเกลือจึงไม่มาก
ในบริเวณใกล้ปากแม่น้ำ ความเข้มของเกลือจะน้อยเนื่องจาก
อิทธิพลของน้ำจืดจากแม่น้ำลำคลอง ทำให้น้ำทะเลเจือจาง |
|
ตารางที่ 1 ประจุเกลือในน้ำทะเล
คลอไรด์ (Cl-) 54.3%
โซเดียม (Na+) 30.2%
ซัลเฟต (SO4++) 7.6%
แมกนีเซียม (Mg++) 3.7 %
แคลเซียม (Ca++) 1.2%
โปแตสเซียม (K+) 1.1%
ประจุอื่นๆ 1.9% |
|
เกลือในทะเลและมหาสมุทรมีกำเนิดมาจากแร่ธาตุบนพื้นโลก
น้ำเป็นตัวทำละลายที่ดี
น้ำฝนละลายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศทำให้มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ
น้ำที่อยู่บนพื้นโลกละลายแร่ธาตุในหินและดิน และไหลรวมกันเป็นแม่น้ำลำธาร
ไปสะสมกันในมหาสมุทร
สารละลายเกลือเหล่านี้อยู่ในประจุของแร่ธาตุที่สำคัญได้แก่
ประจุโซเดียม (Na+) และ
ประจุคลอไรด์ (Cl-)
เมื่อน้ำระเหยออกไป ประจุเหล่านี้รวมตัวกันเป็นสารประกอบ ได้แก่
เกลือแกง (NaCl)
|
|
|
ภาพที่ 2 กระแสน้ำพื้นผิวมหาสมุทร |
|
|
น้ำทะเลในแต่ละส่วนของโลกมีความเค็มไม่เท่ากันและมีความหนาแน่นไม่เท่ากัน
น้ำทะเลที่มีความหนาแน่นสูงย่อมไหลไปแทนที่น้ำทะเลที่มีความหนาแน่นต่ำ การหมุนเวียนของกระแสน้ำลึกมี ปัจจัยที่สำคัญ 2 ประการคือ
ความร้อน (Thermo) และ
เกลือ (Haline)
เราเรียกการไหลเวียนในลักษณะนี้ว่า เทอร์โมฮาลีน (Thermohaline)
|
|
วงจรการไหลเวียนของกระแสน้ำลึกในมหาสมุทร
มีชื่อเรียกว่า แถบสายพานยักษ์ (Great conveyor belt)
น้ำทะเลความหนาแน่นสูงอุณหภูมิต่ำจมตัวลงสู่ท้องมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือไหล
ลึกลงทางใต้ แล้วเลี้ยวไปทางตะวันออก
ขณะที่มันไหลผ่านมหาสมุทรอินเดียอุณหภูมิจะสูงขึ้น
และลอยตัวขึ้นทางตอนเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก (ภาพที่ 3) |
|
น้ำทะเลความหนาแน่นต่ำอุณหภูมิสูงจากมหาสมุทรแปซิฟิก
ไหลวกกลับผ่านมหาสมุทรอินเดียลงมาทางมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ แล้วไหลย้อนมาทางมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ กระแส
น้ำมีความเค็มมากขึ้นเนื่องจากการระเหยของน้ำประกอบกับการเดินทางเข้าใกล้
ขั้วโลกทำให้อุณหภูมิต่ำลง จนจมตัวลงอีกครั้งเป็นการครบรอบวงจร
ใช้เวลาประมาณ 500 2,000 ปี
การไหลเวียนเช่นนี้ส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศในระยะยาว อาทิเช่น
ยุคน้ำแข็งเล็ก ในยุโรปเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 17
อิทธิพลของการไหลเวียนแบบเทอร์โมฮาลีน
มีอิทธิพลต่อน้ำในมหาสมุทรประมาณร้อยละ 90 |
|
|
Casinos with Live dealers - Lucky Club
ตอบลบCasinos with live dealers in Vegas are one of the things you will find in Vegas. And you can enjoy a whole host luckyclub.live of fun casino games. If you enjoy a